กระบวนการผลิตน้ำมันและก๊าซ
กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย คือ กลุ่มบริษัทที่ให้บริการและจัดหาอุปกรณ์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยแบบครบวงจรด้านวิศวกรรมเครื่องจักรอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี โดยดูแล ให้ความใส่ใจอย่างทั่วถึงตั้งแต่การสำรวจและผลิต, การขนส่ง, การแยกก๊าซธรรรมชาติ, ปิโตรเคมีภัณฑ์ ไปจนถึงการกลั่นน้ำมันดิบ
กลุ่มตลาดด้านพลังงาน
มีขั้นตอนในการแก้ปัญหาเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งให้คำแนะนำในทุกๆ ขั้นตอนตั้งแต่เริ่มงานจนงานแล้วเสร็จ
รับทราบข้อมูลและความต้องการของลูกค้า แล้วจึงนำมากำหนดเป้าหมาย รวมถึงขอบเขตการทำงาน พร้อมทั้งพิจารณาข้อกำหนด การใช้งาน การจัดการโครงการและข้อมูลต่างๆ สำหรับการปรับเปลี่ยนในอนาคต เพื่อให้ได้ทิศทาง และการทำงานที่ชัดเจน ควบคู่กับความปลอดภัย รวมถึงการรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
เฟ้นหาเทคโนโลยีที่ดี เหมาะสม และทันสมัยที่สุด โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กัน รวมไปถึงการจัดทำแผนเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกันทุกด้าน
เพื่อให้การทำงานอยู่ในระยะเวลาที่กำหนด และเป็นไปได้ตามแผน เกิดความร่วมมือกันระหว่างลูกค้า, กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย และคู่ค้าพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ช่วยกันระดมความคิด ตั้งแต่ กระบวนการผลิต ติดตั้งจนถึงการ Witness Test เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ว่าการทำงานของระบบนั้นมีประสิทธิภาพ และสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน
การวางแผนด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพของกลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ที่มีประสบการณ์ จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถูกจัดส่งด้วยวิธีที่เหมาะสม และตรงตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ
เราปฎิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ พร้อมบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน
หลังจากติดตั้งทุกครั้ง จะมีผู้เชี่ยวชาญทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าระบบของเครื่องจักรสามารถใช้งานได้ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้
บริการหลังการขาย มีทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรของเราคอยดูแล และให้คำปรึกษา เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุด พร้อมทั้งเคลมสินค้าให้ตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทกำหนด
โดยใช้ประสบการณ์และองค์ความรู้ของเราที่สะสมมาประยุกต์ใช้ ทำให้กลุ่มบริษัท บี ปิโตรไทย ประสบความสำเร็จในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย แนวทางแก้ไขที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในหลาย ๆ ด้าน เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงโรงงาน (Plant turnaround), การลดระยะเวลาในการหยุดเครื่องจักรเพื่อซ่อมบำรุงรักษา, การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, วัสดุคงคลังเป็นศูนย์ และอื่น ๆ อีกมากมาย